interior-trendy-restaurant-with-open-kitchen-concept-interactive-dining-experience
วีเนียร์
ข้อมูลเกี่ยวกับ วีเนียร์

เคสวีเนียร์จาก iConic Dental Clinic

ประโยชน์ของ วีเนียร์

คอมโพสิตวีเนียร์ คือ หนึ่งในวิธีการทางทันตกรรมเพื่อความงาม ที่ใช้ วัสดุเรซินคอมโพสิต (Composite Resin) ซึ่งเป็นวัสดุชนิดเดียวกับที่ใช้อุดฟันสีเหมือนฟัน มาเคลือบหรือสร้างเปลือกฟันชิ้นใหม่ขึ้นโดยตรงบนผิวหน้าของฟันเดิม เพื่อแก้ไขปัญหาความสวยงามต่างๆ เช่น สีฟันที่ไม่สม่ำเสมอ ฟันมีคราบสีเข้ม ฟันแตก บิ่น หรือมีรูปร่างที่ไม่สมส่วน

จุดเด่นสำคัญของคอมโพสิตวีเนียร์คือ ทันตแพทย์จะทำการปั้น แต่ง และขึ้นรูปวัสดุคอมโพสิตโดยตรงบนฟันของผู้ป่วยแต่ละซี่ ทำให้สามารถปรับแต่งรายละเอียด เช่น รูปร่าง ขนาด และที่สำคัญคือ สามารถเลือกเฉดสีและความสว่าง ของวีเนียร์ได้ตามความต้องการ เพื่อให้ผลลัพธ์ดูกลมกลืน สวยงาม และเป็นธรรมชาติมากที่สุด

ข้อดีของการทำคอมโพสิตวีเนียร์:

  1. รวดเร็ว: กระบวนการทำคอมโพสิตวีเนียร์ส่วนใหญ่มักใช้เวลาไม่นาน และ สามารถทำให้เสร็จได้ภายในการนัดหมายครั้งเดียว (ขึ้นอยู่กับจำนวนซี่) โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงสำหรับฟันหลายซี่
  2. คุ้มค่า: เมื่อเปรียบเทียบกับวีเนียร์ประเภทเซรามิก คอมโพสิตวีเนียร์มี ค่าใช้จ่ายที่ย่อมเยากว่า อย่างเห็นได้ชัด จึงเป็นทางเลือกที่เข้าถึงง่ายกว่า
  3. ซ่อมแซมได้ง่าย: หากวีเนียร์เกิดการบิ่น แตก หรือเสียหายเล็กน้อย ทันตแพทย์ สามารถซ่อมแซมได้โดยตรง ที่คลินิก โดยไม่จำเป็นต้องทำใหม่ทั้งซี่ในหลายกรณี
  4. สูญเสียเนื้อฟันน้อย (อาจไม่จำเป็นต้องกรอฟัน): ในบางกรณี โดยเฉพาะเคสที่ต้องการแก้ไขเพียงเล็กน้อย หรือเป็นการเพิ่มความหนา/ความยาวให้ฟัน การทำคอมโพสิตวีเนียร์ อาจไม่จำเป็นต้องกรอเนื้อฟันธรรมชาติออกเลย หรือกรอเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ข้อควรพิจารณาของคอมโพสิตวีเนียร์:

  1. ความแข็งแรงทนทานน้อยกว่า: วัสดุคอมโพสิตมีความแข็งแรงทนทานน้อยกว่าเซรามิก จึงอาจสึกหรอหรือบิ่นได้ง่ายกว่าหากใช้งานไม่ระมัดระวัง
  2. เกิดคราบและสีเปลี่ยนได้ง่ายกว่า: เนื่องจากเนื้อวัสดุมีความพรุนมากกว่าเซรามิก คอมโพสิตวีเนียร์จึง มีโอกาสดูดซับสีจากอาหารและเครื่องดื่ม (เช่น ชา กาแฟ ไวน์แดง) ทำให้สีคล้ำหรือเหลืองขึ้นได้เมื่อเวลาผ่านไป และความเงางามอาจลดลง
  3. อายุการใช้งานสั้นกว่า: โดยเฉลี่ยแล้ว คอมโพสิตวีเนียร์มีอายุการใช้งานประมาณ 3-5 ปี (อาจสั้นหรือยาวกว่านี้ ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและพฤติกรรมการใช้งาน) และอาจต้องมีการขัดแต่งหรือซ่อมแซมเป็นระยะ

โดยสรุป: คอมโพสิตวีเนียร์เป็นตัวเลือกที่ดีและน่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงรอยยิ้มอย่างรวดเร็ว ด้วยงบประมาณที่ไม่สูงมากนัก และยอมรับข้อจำกัดในเรื่องความทนทานและอายุการใช้งานที่สั้นกว่าวีเนียร์เซรามิกได้

ขั้นตอนการทำคอมโพสิตวีเนียร์:

  1. ปรึกษาและประเมิน: ทันตแพทย์จะตรวจสุขภาพช่องปากและฟันโดยละเอียด ประเมินสภาพปัญหา พูดคุยถึงความต้องการและผลลัพธ์ที่คาดหวังของผู้ป่วย เพื่อวางแผนการรักษาและพิจารณาความเหมาะสม
  2. การเตรียมฟัน:
    • ทำความสะอาดผิวฟันอย่างทั่วถึง
    • การกรอฟัน: ทันตแพทย์อาจกรอผิวเคลือบฟันด้านหน้าออกเพียงเล็กน้อย (ประมาณ 0.3-0.5 มม.) เพื่อสร้างพื้นที่ให้วัสดุยึดติดและไม่ทำให้ฟันดูหนาเทอะทะเกินไป ในบางกรณี เช่น การปิดช่องว่าง หรือเติมฟันที่สึก อาจไม่จำเป็นต้องกรอฟันเลย
    • การกัดผิวฟัน (Etching): ใช้กรดชนิดอ่อนทาบนผิวฟัน เพื่อสร้างรูพรุนเล็กๆ เพิ่มประสิทธิภาพในการยึดติดของวัสดุ
  3. การติดวัสดุคอมโพสิต:
    • วิธีทางตรง (Direct Technique – นิยมที่สุด):
      • ทาสารยึดติด (Bonding Agent) ลงบนผิวฟันที่เตรียมไว้
      • ทันตแพทย์จะค่อยๆ นำวัสดุคอมโพสิตเรซินมาปั้นและจัดแต่งรูปร่างทีละชั้น บนผิวฟันโดยตรง ให้ได้รูปทรง ขนาด และความสวยงามตามที่วางแผนไว้
      • ใช้แสงชนิดพิเศษ (เช่น แสงสีฟ้า) ฉายเพื่อให้วัสดุแต่ละชั้นแข็งตัว
    • วิธีทางอ้อม (Indirect Technique):
      • หลังเตรียมฟัน ทันตแพทย์จะพิมพ์ปากเพื่อสร้างแบบจำลองฟัน
      • ส่งแบบจำลองไปให้ห้องปฏิบัติการทางทันตกรรม (Lab) ทำชิ้นงานวีเนียร์คอมโพสิตขึ้นมา
      • ในการนัดหมายครั้งถัดไป ทันตแพทย์จะลองวีเนียร์และยึดติดกับฟันด้วยซีเมนต์เรซิน (Resin Cement) และฉายแสงให้แข็งตัว (วิธีนี้พบได้น้อยกว่าสำหรับคอมโพสิตวีเนียร์)
  4. การขัดแต่งขั้นสุดท้าย: หลังจากวัสดุแข็งตัวและได้รูปทรงที่ต้องการแล้ว ทันตแพทย์จะทำการขัดแต่งวีเนียร์ให้เรียบเนียน กำจัดส่วนเกิน และปรับการสบฟันให้เหมาะสม จากนั้นจะขัดเงาเพื่อให้วีเนียร์มีความสวยงาม แวววาว คล้ายฟันธรรมชาติมากที่สุด
ขั้นตอนการรักษา

เซรามิกวีเนียร์ (หรือที่นิยมเรียกกันว่า พอร์ซเลนวีเนียร์) คือ เปลือกฟันเทียมที่ผลิตขึ้นจากวัสดุประเภท เซรามิกหรือพอร์ซเลน ซึ่งเป็นวัสดุทางทันตกรรมที่มีความแข็งแรงและให้ความสวยงามโดดเด่น มีลักษณะเป็นแผ่นบางๆ ที่ได้รับการออกแบบและผลิตขึ้นอย่างเฉพาะเจาะจงในห้องปฏิบัติการทางทันตกรรม (Dental Lab) ให้มีขนาด รูปร่าง และสีสันที่พอดีกับฟันซี่นั้นๆ ของผู้ป่วยแต่ละราย ก่อนที่จะนำมายึดติดอย่างถาวรบนผิวหน้าฟัน

วัตถุประสงค์หลักคือเพื่อแก้ไขปัญหาความสวยงามของฟัน เช่นเดียวกับคอมโพสิตวีเนียร์ แต่เซรามิกวีเนียร์มักถูกเลือกใช้ในกรณีที่ต้องการผลลัพธ์ด้านความสวยงามและความทนทานสูงสุด

ข้อดีของเซรามิกวีเนียร์:

  1. ความสวยงามเหนือระดับ: นี่คือจุดเด่นที่สุดของเซรามิกวีเนียร์ วัสดุเซรามิกมีความ โปร่งแสง แวววาว และสะท้อนแสงได้ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด ทำให้ผลลัพธ์ดูสมจริง กลมกลืนไปกับฟันซี่อื่นๆ อย่างไร้ที่ติ
  2. ทนทานต่อคราบสีดีเยี่ยม: ผิวของเซรามิกมีความเรียบและทนทานต่อการติดคราบสีจากอาหาร เครื่องดื่ม หรือบุหรี่ได้ดีมาก ทำให้ สีของวีเนียร์ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง แม้จะใช้งานไปเป็นเวลานาน
  3. ความแข็งแรงทนทานสูง: เซรามิกมีความแข็งแรงและทนทานต่อการสึกหรอได้ดีกว่าคอมโพสิตเรซินมาก ทำให้สามารถใช้งานบดเคี้ยวได้ใกล้เคียงฟันปกติ (แต่ยังคงต้องระวังการใช้งานที่รุนแรง)
  4. อายุการใช้งานยาวนาน: ด้วยคุณสมบัติความแข็งแรงและความทนทานต่อคราบสี เซรามิกวีเนียร์จึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 10-15 ปี หรือนานกว่านั้น หากได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี

ข้อควรพิจารณาของเซรามิกวีเนียร์:

  1. ราคาสูง: เนื่องจากต้องใช้วัสดุคุณภาพสูงและกระบวนการผลิตในห้องแล็บที่ซับซ้อน เซรามิกวีเนียร์จึงมี ค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า คอมโพสิตวีเนียร์อย่างมีนัยสำคัญ
  2. ใช้เวลาในการทำมากกว่า: กระบวนการทำเซรามิกวีเนียร์ ต้องใช้การนัดหมายอย่างน้อย 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกสำหรับการเตรียมฟันและพิมพ์ปาก และครั้งที่สองสำหรับการลองและยึดติดชิ้นงานวีเนียร์ (ซึ่งต้องรอผลิตจากแล็บประมาณ 1-2 สัปดาห์)
  3. ต้องกรอเนื้อฟัน (ส่วนใหญ่และเป็นการถาวร): โดยทั่วไป การทำเซรามิกวีเนียร์จำเป็นต้อง กรอผิวเคลือบฟันด้านหน้าออก (ประมาณ 0.5-0.7 มม. หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับเคส) เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับความหนาของวีเนียร์ และเพื่อให้วีเนียร์ยึดติดได้ดี การกรอฟันนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถย้อนกลับได้
  4. ซ่อมแซมได้ยาก: หากเซรามิกวีเนียร์เกิดการแตกหักหรือบิ่นเสียหาย การซ่อมแซมโดยตรงมักทำได้ยากหรือไม่สามารถทำได้ ส่วนใหญ่จะต้องทำการเปลี่ยนชิ้นงานวีเนียร์ใหม่ทั้งชิ้น

ขั้นตอนการทำเซรามิกวีเนียร์:

  1. ปรึกษา วางแผน และตรวจสภาพฟัน: ทันตแพทย์จะตรวจฟันอย่างละเอียด พูดคุยถึงความต้องการ อาจมีการถ่ายภาพรังสี (X-ray) หรือทำแบบจำลองฟันเพื่อวางแผนการรักษา และเลือกเฉดสีของวีเนียร์
  2. การเตรียมฟัน: ทันตแพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่ (ถ้าจำเป็น) และทำการกรอผิวเคลือบฟันด้านหน้าออกตามความหนาที่เหมาะสม
  3. การพิมพ์ปาก: หลังจากเตรียมฟันเสร็จ ทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ปากด้วยวัสดุพิมพ์ปาก หรือใช้เครื่องสแกนดิจิทัล (Digital Scanner) เพื่อบันทึกรูปร่างฟันที่เตรียมไว้ และส่งข้อมูล/แบบจำลองนี้ไปยังห้องปฏิบัติการทันตกรรม
  4. การติดวีเนียร์ชั่วคราว (ถ้าจำเป็น): ในระหว่างรอชิ้นงานวีเนียร์ตัวจริงจากแล็บ ทันตแพทย์อาจติดวีเนียร์ชั่วคราวให้ เพื่อปกป้องผิวฟันที่ถูกกรอไปและเพื่อความสวยงาม
  5. การผลิตวีเนียร์ในห้องแล็บ: ช่างทันตกรรมในห้องแล็บจะใช้แบบจำลองหรือข้อมูลดิจิทัล สร้างสรรค์ชิ้นงานเซรามิกวีเนียร์ที่พอดีกับฟันแต่ละซี่ของผู้ป่วยอย่างประณีต
  6. การลองและยึดติดวีเนียร์: เมื่อได้ชิ้นงานวีเนียร์ตัวจริง (ประมาณ 1-2 สัปดาห์) ผู้ป่วยจะกลับมาพบทันตแพทย์อีกครั้ง ทันตแพทย์จะรื้อวีเนียร์ชั่วคราวออก (ถ้ามี) ทำความสะอาดฟัน และลองชิ้นงานวีเนียร์ตัวจริงเพื่อตรวจสอบความพอดี สีสัน และรูปร่าง หากทุกอย่างเหมาะสม จะทำการยึดติดวีเนียร์เข้ากับผิวฟันอย่างถาวรด้วยซีเมนต์เรซินชนิดพิเศษ และฉายแสงเพื่อให้ซีเมนต์แข็งตัว
  7. การตรวจสอบและขัดแต่งขั้นสุดท้าย: ทันตแพทย์จะทำการตรวจสอบการสบฟัน กำจัดซีเมนต์ส่วนเกิน และขัดแต่งบริเวณขอบของวีเนียร์ให้เรียบเนียน กลมกลืนกับฟันธรรมชาติ

ความเหมาะสม:

เซรามิกวีเนียร์เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่:

  • ต้องการผลลัพธ์ด้านความสวยงาม ระดับสูงสุด และความเป็นธรรมชาติ
  • ต้องการความ ทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนาน
  • มี งบประมาณเพียงพอ สำหรับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
Service fee 3,500 - 15,500 baht
Provide service
Ask for details วีเนียร์ You can contact us at

Dentist services วีเนียร์

9
ทพ.ริตินนท์ จงตั้งปิติ
วีเนียร์ ครอบฟัน สะพานฟัน ฟันปลอมถอดได้

เลือกภาษา

Select language